Mt Whitney คือภูเขาที่มียอดเขาที่สูงที่สุดใน California และ contiguous Unite States (พื่นที่ของสหรัฐอเมริกาที่ติดกัน ไม่รวม Alaska และ Hawaii) ด้วยความสูง 14,505 ft (4,421 เมตร) และ elevation gain 6,960 ft หรือ 2,121 เมตร ยอดเขา Mt Whitney มีระยะทางไปกลับ 22 ไมล์ สามารถใช้เวลาเพียง 1 วัน สำหรับผู้ที่มีความชำนาญ ร่างกายแข็งแรงและทนต่อระยะทางและความสูงของภูเขา ไม่เช่นนั้นอาจจะมีอาการ Altitude Sickness ได้ โดยทั่วไปจะแสดงอาการ เคลื่อนไส้ วิงเวียนศีรษะ ไม่เจริญอาหารและเหนื่อยง่าย ซึ่งอาการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากร่างกายตอบสนองต่อความสูงทึ่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเป็นอย่างมาก เนื่องจากในพื้นที่สูงนั้นมีความหนาแน่นของออกซิเจนน้อยกว่าปกติ
สำหรับ Glad ในตอนแรกได้วางแผนไว้ว่าจะค้างหนึ่งคืนที่ campground ที่ Mt Whitney Portal ตรงจุดทางขึ้น และอีกหนึ่งคืนครึ่งทางก่อนถึงยอดเขา แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจจึงใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคืนบน Mt Whitney ค่ะ สรุปแล้ว ทริปนี้ Glad ใช้เวลาทั้งหมด 4 วันค่ะ
Mt Whitney
Profile
Description
การขอ Permit หรือ ใบอนุญาตในการเดินเขาที่ Whitney
การปีนเขาที่นี่ เราไม่สามารถที่จะเดินทางไปถึงและขึ้นเขาได้เลย เราจะต้องขอใบอนุญาติและเสียค่าธรรมเนียมก่อน การขอ permit เหมือนกับการจองโรงแรม โดยทางหน่วยงานจะมีโควต้าจำนวนคนที่สามารถขึ้นได้ในแต่ละวัน เราต้องเช็ควันว่างและเสียค่าธรรมเนียมออนไลน์ได้ที่นี่ Mt Whitney Permit
เมื่อทำการจองและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ในวันเดินทางเราต้องไปรับใบอนุญาต โดยจุดจะอยู่ที่ Eastern Sierra Visitor Center จาก Google Map จะอยู่ระหว่างทางก่อนเข้าสู่ Whitney Portal
ภาพด้านล่างเป็นตัวอย่างเส้นทาง หากเดินทางมาจากทางตอนใต้ของ California ค่ะ

เมื่อมาถึง เขาจะให้ tag มา ให้เราติดไว้กับกระเป๋า Backpack พร้อมวันที่เราสามารถขึ้นเขาได้ค่ะ น่าตาเป็นแบบนี้

และเขาจะให้ถุงสำหรับ เข้าห้องน้ำ หรือถ่ายของเสียของเรา Whitney ไม่อนุญาตให้ถ่ายอุจจาระบนพื้นบริเวณภูเขา เนื่องจาก สภาพบนพื้นที่บนภูเขามีความเป็นหินสูง มีพิ้นดินที่น้อยมาก ของเสียใช้เวลานานมากในการย่อยสลาย ลองคิดดูค่ะว่า ถ้ามีคน ห้าสิบคนต่อวันขึ้นไปบนภูเขาแล้วถ่ายของเสีย แล้วมันย่อยสลายไม่ทัน ของเสียจะส่งกลิ่นเหมือนขึ้นมาได้ง่ายค่ะ
ถุงถ่ายจะมีซิปล็อคสองชั้น ด้านในจะมีทรายดับกลิ่นแล้วทิชชู่เล็กๆเตรียมให้เล็กน้อย ถุงนี้เรียกว่า WAG Bag (Waste Alleviation and Gelling Bag) ถุงที่ให้มา จะให้ตามจำนวนคนเท่านั้นค่ะ เรียกได้ว่า ถ้าต้องถ่ายสองครั้ง ต้องเปิดถุงเดิมและถ่ายซ้ำค่ะ เราต้องหิ้วถุงไปตลอดและนำกลับลงมาทิ้งด้านล่างตรงทางเข้าค่ะ ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับถุง WAG Bag
วันที่ 1 | Mt. Whitney Portal
เมื่อได้รับ Permit แล้ว เราก็ขับขึ้นไปที่ Whitney Portal Campground ค่ะ เราจะพักคืนแรกกันที่นี่ campground ที่นี่ต้องจองแยกจากการขอ permit สามารถทำการจอง Camp Site ออนไลน์ได้ที่ recreation.gov ค่ะ ใครที่ไม่คิดที่จะขึ้นเขา Whitney สามารถ มาจอง camping เฉยๆได้ บรรยากาศรอบๆดีไม่ใช่น้อยเลยค่ะ
จาก campground เราสามารถเดินไปถึง Whitney trail head ได้ค่ะ เดินชมบรรยากาศรอบๆ มีน้ำตก และลำธารเล็กๆ อากาศเย็นกำลังดี



เดินแป๊บเดียวก็ถึงทางขึ้นแล้วค่ะ แต่วันนี้ยังขึ้นไม่ได้ขึ้น เลยถ่ายรูปไว้ซะหน่อย


ระหว่างทางกลับ campgroup ได้ทักทายกับกวางด้วยค่ะ
คืนนี้เราจะพักกันที่นี่ค่ะ โดยแต่ละ campsite จะมีเบอร์และชื่อคนจองตามที่เราจองออนไลน์ไว้ โดยจะมีที่จอดรถสำหรับ 1 คัน ข้างๆเต็นท์เลยค่ะ

หาอะไรเล่นเพลินๆ กลางป่าค่ะ

ค่ำแล้ว ก่อกองไฟสักหน่อย campground ส่วนใหญ่ สามารถจุด camp fire ได้เฉพาะที่ที่เขาจัดไว้ให้ค่ะ ส่วนบนเขา Whitney นั้น ไม่อนุญาตให้ก่อกองไฟเด็ดขาด เราจะต้องนำ propane tank หรือเตาแก๊สขนาดเล็กไปเอง สำหรับทำอาหารและต้มน้ำ
วันที่ 2 | ออกเดินทางขึ้น Mt. Whitney และ Outpost Camp
วันนี้ตื่นแต่เช้า เก็บเต็นท์ และจัดกระเป๋า เราต้องขับรถมาจอดไว้ใกล้ๆทางขึ้น เพราะที่จอดรถตรง campground มีไว้สำหรับคนที่จองเพื่อค้างคืนเท่านั้น…พร้อมออกเดินทางจริงๆแล้วค่ะ


ช่างน้ำหนักก่อนขึ้นสักหน่อย ได้ 28lb หรือ 12 กิโลกว่าค่ะ…ตอนแรกกะไว้สัก 25lb น่าจะกำลังดี
พร้อมแล้ว เราก็ออกเดินทางกันค่าาา…!!! เดินขึ้นมาได้แป๊บเดียวก็เจอวิวสวยๆแล้วค่ะ



มีทางเดินเพื่อข้ามลำธารเล็กๆ ฝึกการทรงตัวกันสักหน่อย
จาก trail head เดินไปประมาณ 2.7 ไมล์ หรือประมาณ 4.3 กิโลเมตรจะมีป้ายให้เราเลี้ยวซ้าย เพื่อสามารถแวะดูวิวทำเลสาปเล็กๆที่ชื่อว่า Lone Pine Lake ได้ค่ะ วิวสวยมากๆ



ส่วนใครที่คิดจะมาชมแค่ Line Pine Lake ดูวิวจากที่นี่ ก็สามารถขับรถขึ้นมา และเดินตัวเปล่าขึ้นมาได้เลย โดยไม่ต้องของ Permit ค่ะ เนื่องจากที่นี่จะถึงก่อน Whitney zone ที่ต้องมีใบอนุญาตค่ะ

เดินจาก Line Pine Lake มาอีกแป๊บเดียว ก็ถึง Whitney โซนที่กล่าวไว้ค่ะ ซึ่งคนที่มี permit เท่านั้น ที่จะสามารถผ่านป้ายนี้ไปได้ บางคนคนอาจจะสงสัยว่าเขาตรวจกันยังไง…ในแต่ National Park หรือ trail ต่างๆที่ต้องขอ premit จะมีคนเดินตาม trail สำรวจกันเป็นระยะๆ หรือที่เรียกกันว่า ranger เขาจะมีหน้าที่ซุ่มตรวจ permit และช่วยเหลือ หาก hiker มีปัญหา หรือเกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บ ไม่สามารถเดินทางออกมาด้วยตัวเองได้
มุมเดิมค่ะ เพิ่มเติมคือทะเลสาป

วันนี้วางแผนไว้เดินไม่ไกลมาก เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ฝนจะตกในช่วงบ่ายๆเย็นๆค่ะ คืนนี้เราเลยพักกันที่ Outpost Camp ที่นี่ ห่างจาก trail head เพียง 3.5 ไมล์ค่ะ เดินจาก Lone Pine Lake มาไม่ถึงไมล์เลยค่ะ



รีบกางเต้น เผื่อฝนมาจะได้หลบทัน…ใน camp มีน้ำตก สามารถเป็นแหล่งเติมน้ำดื่มได้ แต่ต้องนำ portable filter เล็กๆไปด้วย เพื่อกรองน้ำอีกทีนะคะ ไม่แนะนำให้ดื่มเลย

วันแรกสั้นๆค่ะ พักผ่อน และออกเดินทางแต่เช้าในวันถัดไป อยากที่บอกไว้ในตอนแรกว่าจริงๆแล้วไม่ได้วางแผนที่จะค้างที่นี่ แต่เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ปลอยภัยไว้ก่อนค่ะ
วันที่ 3 | Trail Camp
เก็บของออกเดินทางแต่เช้าค่ะ…มุมเดิม แต่ห่างออกไปเรื่อยๆ

จุดหมายปลายทางของเราคือ Trail Camp ค่ะ จาก Outpost Camp มีระยะทางห่างเพียง 2.1 ไมล์ แต่ความชันเปลี่ยนแปลงเร็วมากค่ะ จากความสุง 10,000 ft. เป็น 12,000 ft. ในระยะทางสั้นๆ เดินมาประมาณ 1.8 ไมล์ก็ถึง Consultation Lake ค่ะ เป็นทะเลสาปที่ถึงก่อน Trail Camp เล็กน้อย

ถึงแล้วค่าาา Trail Camp ชอบซีนกางเต็นท์ในวันนี้มากๆ

เหมือนหลุดออกมาอยู่คนละโลกเลยค่ะ

บริเวณใกล้ๆ camp มีลำธารเล็กๆ ให้เดิมน้ำดื่น แต่ Glad แนะนำให้หาจุดกำเนิดของน้ำ ที่น้ำไม่นิ่ง จะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับน้ำดื่มค่ะ

เตรียมตัวเสร็จแล้ว ทานข้าวแล้วรีบเข้านอนค่ะ พรุ่งนี้เป็นวันที่จะขึ้นไปจุดสูงสุด เหลือระยะทางอีกประมาณ์ 4.3 ไมล์ วางแผนไว้ว่าจะออกตั้งแต่ตีสาม เนื่องจากต้องใช้เวลานานพอสมควร และเขาแนะนำว่า ควรขึ้นไปถึง แล้วลงมาก่อนเที่ยงค่ะ เนื่องจากพายุฝนจะเริ่มก่อตัวในช่วงบ่าย และมีความเสี่ยงในการโดนฟ้าผ่าได้ หากมีพายุค่ะ
วันที่ 4 | Whitney Summit
ตื่นตั้งแต่ตีสาม เงยหน้าดูท้องฟ้า o.O ประทับใจมากๆ ไม่เคยเห็นดาวที่ไหนสวย ชัด และใกล้ขนาดนี้มาก่อน


จาก camp เราต้องเดินขึ้นภูเขา ผ่าน switchbacks หรือทางซิกแซ็กขึ้นภูเขา ทั้งหมดประมาณ 100 ครั้ง ซึ่งเกือบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นทางที่โหดสำหรับ trip นี้ค่ะ แค่ระยะทางขึ้น switchbacks นี้ก็ปาเข้าไป 2 ไมล์แล้วค่ะ ซิกแซ็กนี้จะพาเราไปถึงยอดภูเขาเพื่อข้ามไปอีกด้านของภูเขา Glad เกิดอาการ Altitude Sickness เหมือนกันค่ะ วิงเวียน คลื่นไส้มากๆ กว่าจะข้ามไปอีกฝั่ง พระอาทิตย์ก็ขึ้นพอดีค่ะ



จากวิดีโอด้านล่างต้องเดินระวังจริงๆค่ะ ตื่นเต้นมากับประสบการณ์ครั้งนี้
ในที่สุดก็ถึงแล้วค่ะ! ด้านบนของยอดเขา Whitney Summit มีกระท่อมเล็กๆ แล้วสมุดเซ็นบันทึกเป็นหลักฐานว่าเรามาถึงที่นี่แล้วค่ะ อากาศด้านบนหนาวเย็นพอสมควร แต่ระหว่างเดินขึ้นมาก็เหงื่อออกเหมือนกันค่ะ สับสนเล็กน้อย และที่แปลกใจมากคือ ที่นี่มีสัญญาณโทรศัพท์และ internet ด้วยค่ะ สามารถโทรหาใครก็ได้ โทรไปบอหว่าในที่สุดก็ทำได้แล้วนะ



ถ่ายรูปกับป้ายสักหน่อย…^^

ลาก่อนนะ Mt Whitney ไว้เจอกันใหม่ถ้ามีโอกาส 🙂

จาก Whitney summit เดินลงมาเก็บของเก็บเต็นท์ที่ Trail Camp และเดินลงมารวดเดียว 11 ไมล์ถึง Whitney Protal ใช้เวลาพอสมควร แต่ไม่เหนื่อยเท่าตอนขึ้นแน่นอนค่ะ…และนี่สภาพหลังจากเดินลงมาถึงด้านล่างค่ะ หวังว่าประสบการณ์ของ Glad ในครั้งนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนออกมาหาประสบการณ์ใหม่ๆกันนะคะ 🙂

Wowww😮it is an amazing adventures and great achievements ❤️❤️❤️. You are so brave and strong! I’m so proud of you dear❤️❤️❤️.
Great adventure
[…] เพื่อฝึกความพร้อมไป Mt Whitney […]