เก็บเงินลงทุนแบบไม่รู้ตัว กับ Acorns [ในอเมริกา]

Acorns คืออะไร?

Acorns คือ application บนมือถือ ที่จะนำเศษเงินทอนของเราไปลงทุนกับกองทุนที่เราเลือกไว้ใน Application โดย Acorns จะ track credit card หรือ transaction จากบัญชีต่างๆ ของเราที่ link กับ Acorns แล้วนำส่วนต่างจากการปัดขึ้นไปลงทุน อธิบายง่ายๆคือ สมมุติว่าเราซื้อกาแฟ $4.75 ระบบของ Acorns จะทำการ round up หรือ ปัด $4.75 ขึ้นให้เป็น $5 แล้วนำส่วนต่าง ซึ่งก็คือ $0.25 นำไปใส่บัญชีของ Acorns เพื่อนำมาลงทุนต่อไป

Acorns มีค่าใช้จ่ายยังไง?

Subscription ของ Acorns มีให้เลือก 3 ระดับ

Acorns Lite – $1/ต่อเดือน

มี option ในการหักเศษเงินทอน ไปลงทุนต่อใน mutual fund(กองทุนรวม) ซึ่งเป็น feature ที่เขาโฆษณาไว้หลักๆของ Acorns แต่ถ้าใครคิดว่าเราซื้อของไม่ค่อยเยอะ เงินทอนไม่ค่อยมีให้หักไปลงทุน option นี้ก็สามารถ เซ็ต recurring investment ให้เขาหักเป็นจำนวนเงินที่เราตั้งไว้ในแต่ละอาทิตย์หรือเดือนแทนได้ค่ะ Option นี้ ก็เป็นตัวเลือกที่ Glad เลือกใช้อยู่ ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากค่ะ

Acorns Personal – $3/ต่อเดือน

ส่วน option นี้ นอกจากบัญชี mutual fund ยังแล้ว เราสามารถเปิดบัญชี retirement(หลังเกษียร) และบัญชีธนาคารธรรมดากับ Acorns และมี money advice feature จาก Acorns ให้อีกด้วย

Acorns Family – $5/month

Option นี้ จะ target เป็น family account สามารถเป็นบัญชีให้ลูกของเราทุกคน รวมถึงบัญชีของเราเองด้วยค่ะ

Earn more money  กับ Acorn

อกจาก Acorns จะ track ค่าใช้จ่ายของเราเพื่อหาเศษเงินทอนเพื่อไปลงทุนแล้ว Acorns ยัง track transaction จากแบรด์ต่างๆที่ partner กับ Acorns เพื่อให้โบนัสมาลงทุนเพิ่มเติมอีกดัวย ยกตัวอย่างด้านล่างนี้ Glad สั่งอาหารจาก Postmates และ $0.25 ด้านล่างนี้ ไม่ใช่เศษเงินของเรา แต่เป็นโบนัสที่ได้เพิ่มจาก Postmates โดยตรง

ยังมีแบรนด์ต่างๆอีกมากมายที่เข้าร่วมแจกโบนัสกับ Acorns อย่างเช่น Apple ที่ให้โบนัส 1.5% จากสินค้าที่ซื้อ Chevron หรือ GrubHub ที่ให้ $0.25 ต่อ trasaction หรือ HELLOFRESH ที่ให้ถึง $25 เป็นต้น

ลงทุนอย่างไรให้คุ้มกับค่า subscription?

ดยทั่วไปแล้ว Mutual Fund หรือกองทุนรวมต่างๆ จะมีค่าใช่จ่ายจากจัดการกองทุน มากน้อยต่างกันไป โดยส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายจะคิดเป็นอัตราส่วนระหว่างเงินที่เราลงทุนกับค่าใช้จ่ายที่จะถูกเก็บจากกองทุน ที่เรียกว่า Expense Ratio ซึ่งหากเป็นไปได้ก็ไม่ควรเกิน 0.2% เปอร์เซ็นต์ ยิ่งน้อยยิ่งดี เท่ากับว่า เราไม่โดนหักค่าใช้จ่ายไปเยอะ

แต่เนื่องจาก subscription หรือค่า fee ของ Acorns คิดเป็นรายเดือนแบบ flat rate ไม่ได้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ทั่วไป ฉะนั้น เราสามารถทำให้อัตราส่วนของ Expense Ratio ให้มีเปอร์เซ็นต์น้อยลง โดยการใส่เงินให้มากขึ้นในบัญชี Acorns โดย Glad จะยกตัวอย่างจาก subscription ใน option แรก นั่นคือเดือนละ $1 แล้วพยาทำให้ Expense Ratio ให้อยู่ที่ 0.2%

ค่าของ Expense Ratio ที่คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ สำหรับ Acorns คิดได้จาก สูตรนี้

Expense Ratio = {ค่า SubscriptionFee \over จำนวนเงินในบัญชีของ Acorns} \times 100

ค่า subscription คือ $1 หารด้วย จำนวนเงินในบัญชี และคูณด้วย 100 เพื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์

ตัวอย่างการคิดอัตราส่วนในเดือนแรกที่เราจ่ายค่า subcription ไป $1 จากตารางด้านล่าง เราจะเห็นได้ว่า ถ้าจะทำให้ Expense Ratio ของเรา เท่ากับกับ 0.2% หรือน้อยกว่า เราต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อย $500 ยิ่งใส่มาก Expense Ratio ยิ่งน้อยลง

จำนวนเงินในบัญชีกับ Acornsค่า Subscription ในเดือนแรก ($1)สูตรExpense Ratio(%)
$100$1{1 \over 100} \times 1001%
$200$1{1 \over 200} \times 1000.5%
$500$1{1 \over 500} \times 1000.2%
$1000$1{1 \over 1000} \times 1000.1%
$10000$1{1 \over 10000} \times 1000.01%

แต่เราอย่าลืมว่า ค่า subscription เนี่ย เค้าเก็บเป็นรายเดือนทุกเดือน เดือนละ $1 เราก็ต้องมาคิดอีกว่า พอเดือนถัด ถ้านับตั้งแต่เดือนแรก ค่า fee ก็จะเพิ่มสะสมขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วถ้าหากว่าเงินใจบัญชีเรายังเท่าเดิม ผ่านไป 3 -4 เดือน Expense Ratio เราก็จะสูงขึ้นตามด้านล่างนี้แทนค่ะ เงินในบัญชีมีอยู่ $500 แต่ปาเข้าไปเดือนที่ 4 ก็จ่ายค่า fee ไปแล้ว $4

เดือนที่จำนวนเงินในบัญชีกับ Acornsค่า Subscription สะสม นับตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีสูตรExpense Ratio(%)
1$500$1{1 \over 500} \times 1000.2%
2$500$2{2 \over 500} \times 1000.4%
3$500$3{3 \over 500} \times 1000.6%
4$500$4{4 \over 500} \times 1000.8%

เราจะเห็นได้ว่า เงินในบัญชีเรายังเท่าๆเดิมเนี่ย Expense Ratio มันก็จะดูสูงขึ้นเรื่อยๆ แลดูจะไม่คุ้มสักเท่าไหร่ ทีนี้ เราก็ต้องมาคิดแล้วว่า เราควรจะมีเงินในบัญชีเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนเท่าไหร่ เพื่อที่ว่า Expense Ratio ของเรา จะมีค่าเท่ากับ 0.2 % ตลอดๆในแต่ละเดือน เราก็ใช้สูตรเดิมเนี่ยแหละค่ะ แต่แค่สับตัวแปรนิดหน่อย

จำนวนเงินในบัญชี Acorns = {ค่า SubscriptionFee \over Expense Ratio} \times 100
เดือนที่ค่า Subscription สะสม นับตั้งแต่วันที่เปิดบัญชีExpense Ratio(%)สูตรจำนวนเงินที่ควรในบัญชีกับ Acornsจำนวนเงินควรใส่เพิ่มขึ้นเดือนละ
1$10.2%{1 \over 0.2} \times 100$500$500
2$20.2%{2 \over 0.2} \times 100$1000$500
3$30.2%{3 \over 0.2} \times 100$1500$500
4$40.2%{4 \over 0.2} \times 100$2000$500

จากตารางด้านบน เราก็จะเห็นได้ว่า ควรจะฝากเงินเพิ่มเดือนละ $500 เพื่อที่จะให้ Expense Ratio อยู่ที่ 0.2% ค่ะ แต่ถ้าใครคิดว่า Expense Ratio 0.5% ยังโอเคกับเราอยู่ ถือว่าโดนหักไม่เยอะมาก ก็เปลี่ยนจาก 0.2 เป็น 0.5 ในสูตรแทนค่ะ

ควรจะลงทุนกับ Acorns ไหม?

ส่วนตัว Glad คิดว่า Acorns มี concept ที่ดี ที่สนับสนุนให้คนนำเศษเงินที่มีไปลงทุนต่อ แต่ถ้าเศษเงินที่เรามีน้อย แล้วที่สำคัญถ้ามีไม่ถึง $500 ก็ดูจะไม่คุ้มค่า fee ที่เราเสียไปในแต่ละเดือนสักเท่าไหร่ Glad เลยแนะนำว่า หากจะใช้ Acorns ควรตั้งค่าให้ใส่เงินในบัญชีขึ้นต่ำเดือนละ $500 (หรือ $200 ก็ได้ หากคิดว่า Expense Ratio 0.5% ยังดูไม่สูงมากนัก) บวกกับการลงทุนเศษเงินของเรา

Glad รู้สึกว่า Acorns บริหารกองทุนได้ดีทีเดียว Glad เลือกลงทุนกับกองทุนแบบ Moderate Agressive หรือกองทุนที่มีความเสียงกลางไปค่อนข้างมาก หลังจากลงทุนมา 1 ปี ผลตอบแทนที่ได้ คิดเป็นกำไรจากการลงทุนได้ถึง 20.68% ซึ่ง Glad ถือว่าเยอะมาก สำหรับ Mutual Fund เมื่อเทียบกับ Mutual Fund ของ Fiderlity ที่ Glad มีอยู๋ คิดเป็นกำไรแล้วได้แค่ 13.09% เท่านั้น

ตามตารางที่อธิบายด้านบน 1 ปีแล้วแกลดควรจะมีเงินในนี้ประมาณ $6000 Glad ยอมรับค่ะว่าตอนนี้ลงทุนไม่คุ้มค่า fee เอามากๆ แต่ก็อาศัยเงินโบนัสหักลบกันไป หลังจากนี้ก็ควรจะใส่เงินในบัญชีเข้าไปทุกเดือนค่ะ

สมัคร Acorns ยังไง?

ากใครสนใจและคิดจะลงทุนกับ Mutual Fund อยู่แล้ว แถม Acorns มี option ให้เราลงทุนแบบไม่รู้ตัวด้วยเศษเงินทอนของเรา การจัดการกองทุนของเขาก็ถือว่าดีไม่ใช่ย่อย แทนที่จะเอาเศษเงินเก็บไว้ในบัญชีนิ่งๆ ใส่กระปุกแบบ Piggy Bank ไว้เฉยๆ เราก็เอามาต่อยอดได้ง่ายๆ ผ่าน Acorns ค่ะ สมัครง่ายๆได้ที่นี่เลยค่ะ

ถ้าสมัครผ่าน link นี้ จะได้รับ $5 ซึ่งเท่ากับว่า ถ้าเราสมัครแบบ Acorns Lite ก็จะได้ใช้ฟรี 5 เดือนค่ะ

ใครที่สมัครแล้ว อย่างลืมมาแชร์ประสบการณ์กันนะคะ 🙂

Comments:

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.